ความสำคัญของราคาน้ำตาลตลาดโลก ความรู้เพื่อการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์

                นักลงทุนที่มีความสนใจในสินทรัพย์โภคภัณฑ์อย่างน้ำตาล ควรทำการศึกษาความสำคัญของราคาน้ำตาลตลาดโลก ที่เกี่ยวข้องไปถึงอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายจากประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกเป็นหลัก เนื่องจากน้ำตาลและอ้อยเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อตลาดและระบบเศรษฐกิจของโลก ดังนั้นราคาและความผันผวนจึงสามารถเกิดขึ้นได้จากทุกปัจจัยแวดล้อม ซึ่งเราได้นำข้อมูลความสำคัญของราคาน้ำตาลในตลาดโลกมาฝากกัน เพื่อให้นักลงทุนได้ศึกษาเป็นความรู้พื้นฐาน

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับความสำคัญของราคาน้ำตาลตลาดโลก

                ราคาน้ำตาลตลาดโลกมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากน้ำตาลได้กลายเป็นสารให้ความหวานที่คนทั่วโลกไม่สามารถตัดออกไปจากชีวิตได้ โดยมีข้อมูลเปิดเผยว่า ทั่วโลกมีปริมาณการบริโภคน้ำตาลเป็นสัดส่วนมากถึง 78.2% ส่วนที่เหลือคือสัดส่วนของการบริโภคสารทดแทนความหวานที่ได้จากน้ำผึ้ง และหญ้าหวาน เป็นต้น ดังนั้นเมื่อน้ำตาลได้กลายเป็นวัตถุดิบที่มีความสำคัญต่อคนทั่วโลก ราคาน้ำตาลในตลาดโลกจึงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของโลกด้วยเช่นกัน

ซึ่งถ้าเราไปดูราคาน้ำตาลตลาดโลกย้อนหลังไป 3 ปี เราจะได้เห็นถึงการปรับขึ้นของราคาน้ำตาลอย่างชัดเจน โดยในปี 2564 ราคาน้ำตาลอยู่ที่ 18.9 เซนต์/ปอนด์ ต่อมาในปี 2565 ราคาน้ำตาลอยู่ที่ 20 เซนต์/ปอนด์ และในปี 2566 ช่วงต้นปี ราคาน้ำตาลขยับมาอยู่ที่ 26.7 เซนต์/ปอนด์ และเมื่อได้เห็นราคาที่ขยับขึ้นแบบปีต่อปีเช่นนี้แล้ว นักลงทุนคงต้องเร่งศึกษาถึงปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อราคาน้ำตาล ซึ่งเราได้ทำการศึกษาข้อมูลมาให้ด้วยในหัวข้อต่อไป

นักลงทุนควรทราบ ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำตาลตลาดโลก

                เมื่อได้เห็นถึงราคาน้ำตาลตลาดโลกในช่วงปีที่ผ่านมา นักลงทุนที่คิดจะลงทุนกับสินทรัพย์โภคภัณฑ์ประเภทนี้คงต้องติดตามข่าวสารกันอย่างใกล้ชิดสักหน่อย เพราะราคาที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจะไม่สามารถทราบได้เลยว่า โอกาสที่การปรับตัวจะลดลง หรือปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดขึ้นจากอะไร หากไม่ทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อราคาน้ำตาลในตลาดโลก

สภาพภูมิอากาศที่อยู่เหนือการควบคุม

นักลงทุนทราบหรือไม่ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของโลก อย่างประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย กำลังประสบกับปัญหาทางสภาพภูมิอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังพบกับปัญหาฝนตกไม่ตรงฤดูกาล และปัญหาภัยแล้ง ทำให้สัดส่วนในการผลิตน้ำตาลจากเดิมคิดเป็น 50% ของมูลค่าในตลาดโลก กลายเป็นต่ำกว่า 50% อันเป็นผลมาจากผลผลิตอ้อยลดจำนวนลง ทำให้อุตสาหกรรมภาคการผลิตน้ำตาลผลิตได้น้อยลงตามไปด้วย

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

ความต้องการบริโภคน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สอดคล้องกับการผลิตน้ำตาลดังที่ได้กล่าวไปในข้อแรกว่า ด้วยสภาพภูมิอากาศ ทำให้ประเทศผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของโลกต้องลดกำลังการผลิตลง ดังนั้นเมื่อความต้องการมีมากกว่ากำลังการผลิต ราคาน้ำตาลตลาดโลกจึงถูกกดดันให้มีราคาเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังมีข้อมูลสำคัญด้วยว่า ประเทศอินเดีย และประเทศจีน คือ 2 ประเทศมหาอำนาจ ที่มีความต้องการบริโภคน้ำตาลมากที่สุดในโลก ซึ่งไม่เพียงแค่ความต้องการบริโภคเท่านั้น ทั้ง 2 ประเทศนี้ยังมีประชากรรวมกันมากกว่า 2,900 ล้านคน หรือคิดเป็น 36% ของประชากรทั้งหมดบนโลกเลยทีเดียว นั่นจึงทำให้อนาคตจะยิ่งมีความต้องการน้ำตาลสูงขึ้น

ความผันผวนของราคาน้ำมัน

นอกจากอ้อยจะถูกนำไปแปรรูปเป็นน้ำตาลแล้ว ยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันด้วย เพราะอ้อยสามารถแปรรูปเป็นเอทานอลที่ใช้ผสมกับน้ำมันเบนซิน เพื่อการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์นั่นเอง ดังนั้นในช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อโลกของเราต้องพบกับภาวะสงครามระหว่างประเทศรัสเซียกับประเทศยูเครนไปพร้อม ๆ กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อน้ำมันสำเร็จรูปโดยตรง

ราคาน้ำตาลตลาดโลกจะมีทิศทางและแนวโน้มอย่างไร นักลงทุนต้องหมั่นติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน เพราะอย่างที่เห็นว่า แม้แต่ราคาน้ำมันโลกที่ผันผวน ก็ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำตาลด้วยเช่นกัน ดังนั้นเพื่อให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ อย่าละเลยปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น